อยาก ผ่อนคอนโดเดือนละ 5000 ควรกู้ซื้อคอนโดราคาเท่าไหร่ดี

เริ่มโดย waanbotan_, เม.ย 14, 2024, 11:05 ก่อนเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

waanbotan_

สำหรับใครที่กำลังมองหาอสังหาริมทรัพย์ ที่อยู่เป็นของตัวเองแต่ต้องการความสะดวกสบายเรื่องของส่วนกลาง การเดินทาง คอนโดมิเนียมมีหลายระดับราคาให้เลือกเพื่อให้เหมาะกับความสามารถในการ ผ่อนคอนโด ของผู้ซื้อ

โดยทั่วไป หลายๆ คนจะเลือกกู้สินเชื่อซื้อคอนโด ความสามารถในการผ่อนชำระจะคำนวณจากรายได้และภาระหนี้สิน ดังนี้

   ความสามารถในการผ่อนชำระ = (รายได้ x 40%) - หนี้สิน
    กรณีที่ไม่มีหนี้สิน และอยาก ผ่อนคอนโดเดือนละ 5000 บาท ต้องมีเงินเดือน 12,500 บาท แต่ถ้ามีหนี้สินที่ต้องชำระ สมมติเดือนละ 500 ความสามารถในการผ่อนชำระก็ลดลงเหลือ 4,500 เป็นต้น
   
ส่วนวงเงินสูงสุดที่สามารถกู้ได้ มีสูตรการคำนวณ ดังนี้
   วงเงินกู้สูงสุด = ความสามารถในการผ่อนชำระ x 1,000,000 ÷ 7,000
   กรณีที่สามารถ ผ่อนคอนโดเดือนละ 5000 สามารถ กู้ซื้อคอนโด ได้สูงสุด 714,000 บาท

   ซื้อคอนโด ต้องมีเงินเท่าไหร่ นอกจากเงิน ผ่อนคอนโด แล้ว ยังมีค่าใช้จ่ายและค่าธรรมเนียมที่เราต้องเตรียมเงินไว้ด้วย ดังนี้
   1. เงินจอง เงินทำสัญญา เงินดาวน์ และค่างวดผ่อนดาวน์
   2. ค่าจดจำนอง 1% ของเงินกู้ และค่าธรรมเนียมการโอน 2% ในวันโอนกรรมสิทธิ์ที่สำนักงานที่ดิน
   3. ค่าประกันมิเตอร์ไฟฟ้า และมิเตอร์น้ำ
   4. ค่าประกันภัยอาคาร กรณีที่นิติบุคคลมีการทำประกันภัยไว้
   5. ค่าดูแลพื้นที่ส่วนกลางของคอนโด
   6. ค่าตกแต่ง ค่าเฟอร์นิเจอร์ และเครื่องใช้ไฟฟ้า
   7. ค่าขนย้ายเพื่อเข้าพักอาศัยในคอนโดมิเนียม
   8. ค่าธรรมเนียมในการยื่นกู้ และค่าประเมินราคาของธนาคาร
   9. ค่าประกันอัคคีภัย และค่าประกันวงเงินสินเชื่อของธนาคาร

    เมื่อประเมินค่าใช้จ่ายและเงินดาวน์เรียบร้อยแล้ว ก็ต้องมองหาคอนโดมิเนียมตามเงินดาวน์ที่เราเตรียมไว้รวมกับวงเงินกู้ที่เราสามารถ กู้ซื้อคอนโด ได้ อย่างไรก็ตาม เราสามารถเพิ่มความสามารถในการผ่อนชำระหรือเพิ่มวงเงินกู้ได้ด้วยวิธีการดังต่อไปนี้

   1. ชำระภาระหนี้สินให้หมด เพื่อเพิ่มความสามารถในการผ่อนชำระโปะบ้านและส่งผลถึงวงเงินกู้ที่สูงขึ้นด้วย
   2. เปรียบเทียบค่าธรรมเนียมและดอกเบี้ยสินเชื่อของธนาคารต่าง ๆ หรือติดตามรายการส่งเสริมการขายของธนาคาร เช่น ยกเว้นค่าธรรมเนียมยื่นกู้ ดอกเบี้ยเงินกู้อัตราพิเศษ หรือออกค่าธรรมเนียมจดจำนองให้ เป็นต้น เพื่อเลือกใช้บริการสินเชื่อจากธนาคารที่เราได้ผลประโยชน์มากที่สุด
   3. หาผู้กู้ร่วม เพื่อให้ความสามารถในการผ่อนชำระและวงเงินกู้สูงขึ้น โดยผู้กู้ร่วมต้องเป็นญาติที่มีนามสกุลเดียวกัน หรือเอกสารหลักฐานที่แสดงว่ามีนามสกุลเดียวกัน เช่น สูติบัตร ทะเบียนบ้าน ทะเบียนสมรส ภาพถ่ายงานแต่งงาน หนังสือรับรองบุตร เป็นต้น

   นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยที่ธนาคารจะพิจารณาการให้สินเชื่อ ได้แก่ อายุของผู้กู้ ซึ่งโดยปกติอายุผู้กู้ร่วมกับระยะเวลาการกู้แล้วไม่ควรเกิน 65 ปี และมีประวัติทางการเงินที่ดี

   ถ้าหากยังไม่มีความพร้อมทางด้านการเงิน ก็ควรเก็บออมเงินไว้ก่อนเพื่อให้มีเงินดาวน์มากขึ้นและกู้เงินจากธนาคารน้อยลง เพราะการเลือกผ่อนคอนโดหนึ่งครั้งถือเป็นหนี้ก้อนใหญ่ไม่น้อยเลย